title

พระบรมธาตุแสนไห

         วัดสันติสุข เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมแบบไทใหญ่อันล้ำค่า หาชมได้ยาก รูปแบบอาคารต่างๆ ของวัดชาวไทยใหญ่ คือ แบบไทยใหญ่ผสมพม่า ที่แพร่หลายในรัฐฉาน ลักษณะเด่นที่เห็นได้ชัดเจน คือ รูปแบบหลังคา ที่ทำซ้อนขึ้นไปหลายๆ ชั้น เหมือนยอดปราสาท โดยยกจั่วขึ้น แล้วมีหลังคา ขนาดเล็กกว่าทิ้งชายครอบลงมา อีกชั้น ถ้ามี 2 จั่ว และซ้อนหลังคากัน 3 ชั้น เรียกว่า อาคารแบบสอง คอสามชาย ในภาษาไทยใหญ่เรียกว่า “เจตบุน” ส่วนอาคารสามคอจั่วและซ้อนหลังคาเป็นสี่ชาย เรียกว่า “ยอนแซก” หากสูงไปกว่านั้นจะนิยมสร้างเป็นยอด ปราสาท ซ้อนหลังคาขึ้นไป 5 หรือ 7 ชั้น ส่วนชาย ของหลังคานิยมประดับด้วยสังกะสี เจาะฉลุ เป็น ลวดลายละเอียดสวยงาม ส่วนที่ประดับเหนือ ชายคาเรียกว่า “ปานถ่อง” ส่วนที่ห้อยลงมาใต้ ชายคาเรียกว่า “ปานซอย” : แผนที่ [Google Map]

title

วัดสันติสุข

         พระบรมธาตุแสนไห เป็นพระบรมธาตุคู่เมืองเวียงแหง ตั้งอยู่ที่ตำบลเมืองแหง จากบ้านเมืองงายเข้ามา 55 กิโลเมตร เชื่อกันว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลแต่มาได้รับการบูรณะในพ.ศ. 2457 เป็นปฏิมากรรมผสมระหว่างพม่าและล้านนาไทย ซึ่งการก่อสร้างทับพระธาตุเดิมที่มีขนาดเล็ก โดยของใหม่มีสันถาร 8 เหลี่ยม สันนิษฐานว่าที่นี่มีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกับสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเมื่อครั้งยกทัพไปยังเมืองอังวะของพม่าเมื่อปี พ.ศ. 2147 หลังจากประชุมพลที่เมืองงาย จึงเสด็จไปทางเมืองห้างหลวงซึ่งน่าจะเป็นเมืองแหงในปัจจุบันเพราะมีคูเมืองล้อมยาวกว่า 2 กิโลเมตร และเป็นเมืองเดียวที่อยู่ระหว่างเมืองงายกับเมืองอังวะของพม่า เชื่อว่าพระองค์น่าจะเสด็จมาพักทัพที่พระบรมธาตุแห่งนี้และสร้างบ่อน้ำใช้ส่วนพระองค์และช้างศึกตรงบริเวณด้านหน้าเนินเขาที่ประดิษฐานพระบรมธาตุ ชาวบ้านเรียกว่าบ่อน้ำช้าง ประเพณีที่สำคัญของวัดนี้ คือ งานสรงน้ำพระบรมธาตุ ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ของทุกปี : แผนที่ [Google Map]

title

วัดฟ้าเวียงอินทร์

         วัดที่มีอาณาเขตคร่อมระหว่างประเทศไทยและประเทศเมียนมาร์ ทำให้วัดนี้ได้ชื่อว่าเป็น "วัดสองแผ่นดิน" เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมแบบไทใหญ่ มีพระธาตุองค์ใหญ่อยู่ตรงกลาง ล้อมรอบเจดีย์องค์เล็กอีก 6 ยอดพระธาตุมาระชินะเจดีย์ที่มีสีทองอร่าม อันหมายถึงเจดีย์ชนะมาร หรือที่ชาวบ้านเรียกในภาษาไทใหญ่ว่า กองมูแหลนเหลิน หมายถึง พระธาตุเขตแดน และใต้ฐานเจดีย์แห่งนี้มีจารึกพระธาตุมาระชินะเจดีย์เป็นภาษาไทใหญ่ บอกเล่าความเป็นมาในการสร้างวัดครั้งแรก ทั้งนี้มีความเชื่อกันว่าพระเจดีย์องค์นี้สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และบูรณะอีกครั้งโดยเจ้ากองเจิง(พลเอกโมเฮง ชนะศึก) หัวหน้าคณะปฏิวัติรัฐฉานผู้นำขบวนการกู้ชาติไทใหญ่ และสิ่งที่น่าสังเกตอีกอย่างคือ ตรงซุ้มทางเข้าเจดีย์มิได้ประดับด้วยสิงห์หรือนาคแต่ประดับด้วยกลองยาวหรือที่ชาวไทใหญ่เรียกว่ากลองปู่เจ นอกจากนี้ภายในวัดยังมีศาลสมเด็จพระนเรศวร มีห้องแสดงภาพผู้นำและประวัติของชาวไทใหญ่ ส่วนด้านหลังวัดคือสุสานของนายพลโมเฮง อดีตผู้นำของที่นี่ ทั้งนี้นักท่องเที่ยวทุกคนมักแวะถ่ายรูปตรงป้ายบอกสุดเขตชายแดนไทย-เมียนมาร์ ซึ่งนั่นหมายถึงว่าคุณได้เดินทางมาถึงวัดแห่งนี้แล้ว : แผนที่ [Google Map]

title

ข่วงพระนเรศวร

         ข่วงพระนเรศวร เป็นที่ประดิษฐานพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ขนาด 1 เท่าครึ่งของพระองค์จริง ประทับนั่ง พระหัตถ์ขวาทรงพระสุวรรณภิงคารหลั่งน้ำทักษิโณทกประกาศอิสรภาพ พระหัตถ์ซ้ายทรงพระแสงดาบ สถานที่แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกและเป็นอนุสรณ์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่พระองค์ได้ทรงเสียสละในการกอบกู้เอกราชให้เราเป็นไทยมาจนถึงทุกวันนี้ : แผนที่ [Google Map]



ย้อนกลับ